ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น การเห็นคุณค่าของตนเองให้กับเด็กที่ดีที่สุดคือ พ่อแม่ และผู้ปกครอง เพราะช่วงวัยเด็กนั้น หากเด็กจะได้รับการลี้ยงดูแล ให้ได้รับการพัฒนาอย่างสมวัยพร้อมกับการสร้างสมความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่ง Self-esteem สะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์รอบข้าง และสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเด็ก ดังนั้นพ่อแม่ และผู้ปกครองจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะสังเกต พฤติกรรมที่แสดงออกของเด็กว่าแต่ละช่วงเวลาเป็นอย่างไร
ความรู้สึกภาคภูมิใจมีเข้ามาเป็นแต่ละบางช่วงอาจมีความภูมิใจมาก บางช่วงอาจมีความภูมิใจน้อย ภาวะกาลเช่นนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมา เด็กจะมีความภูมิใจในตนเองและมีความรู้สึกต่อตนเองอยู่ในระดับไหน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูในวัยเด็ก ว่าพ่อแม่ หรือผู้ปกครองได้ สร้างพลังด้านจิตใจ ให้เด็กเติบโตขึ้นมาในสภาวะแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้เขาได้เสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองได้ตลอดเวลา เช่น การที่เด็กสามารถแสดงออกอย่างเต็มศักยภาพในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เค้าถนัดหรือสนใจ หรือแม้แต่จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การแบ่งปันสิ่งของหรือขนมให้เพื่อน การเก็บขยะตามทางเดินไปทิ้งให้ถูกที่ หรือแม้แต่การช่วยเพื่อนทำเวรห้องเรียนประจำวันนั้น ก็สามารถสร้างพลังแห่งความมั่นใจในตนเองได้
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องถูกสร้างสมมาตั้งแต่วัยเด็ก สิ่งที่สำคัญที่สุดในบทบาทของพ่อแม่และผู้ปกครอง คือการพูดหรือแสดงความเข้าใจในสิ่งที่เด็ก ๆ ทำ เสริมแรงโดยการกล่าวคำชมเชยเพื่อให้เขารู้สึกถึงความภูมิใจในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ สิ่งเหล่านี้เป็นการเพิ่มความความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเองที่จะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เมื่อเด็กมีความภาคภูมิใจในตนเอง รู้และเห็นคุณค่าของตนเองแล้ว ก็จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะต่างกับผู้ที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำ บุคคลเหล่านี้มักจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปในทางไม่ดี มีความวิตกกังวลสูง ขาดความเชื่อมั่นใจตนเอง ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีการวางแผนในชีวิต ไม่เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เก็บตัว หมกมุ่นกับความคิดของตนเองไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ฯลฯ
การเห็นคุณค่าในตนเองมีความสำคัญยิ่งในการที่เด็กเติบโตขึ้นและสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข มีกระบวนการปรับตัวอย่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การรับรู้คุณค่าของตนเองตามสภาพความเป็นจริงของชีวิต และเป็นพื้นฐานการมองชีวิตให้ดำรงอยู่อย่างมีคุณค่า เสริมสร้างให้บุคคลแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดี และดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
มูลนิธิอุ่นรักษ์เพื่อพัฒนาเด็ก ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพบุคคลเป็นสำคัญ “คนเราต้องเข้าใจตนเอง รู้จักตนเองก่อน แล้วเราจึงจะสามารถเข้าใจคนอื่นได้” แนวทางการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองนั้นสามารถพัฒนาที่ตัวบุคคลนั้น มูลนิธิอุ่นรักษ์เพื่อพัฒนาเด็ก จึงได้จัดการอบรมเชิงปฎิบัติการให้กับ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และเด็ก ๆ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การยอมรับตนเอง การเข้าใจตนเอง การเรียนรู้ที่จะให้รางวัลตนเองเมื่อประสบความสำเร็จ การเลิกความคิดที่ไม่มีเหตุผล และลดการฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่สร้างสรรค์จากผู้อื่น องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยพัฒนา และเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองให้สูงขึ้น
ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่น การเห็นคุณค่าของตนเอง จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทุกคนควรจะมี แต่หากบุคคลไม่เห็นคุณค่าในตนเอง ไม่ยอมรับ ไม่เข้าใจในตนเองแล้ว บุคคลนั้นก็จะไม่มีความมั่นใจต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของตนและก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้
แต่อย่างไรก็ตามจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดก็คือ “ตนเอง” ตนเองเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้ จงมั่นใจ และสร้างแรงบันดาลใจจากภายในสู่ภายนอก พร้อมกับการเห็นคุณค่าในตัวเราเอง จงมีความภาคภูมิใจในความรู้ ความสามารถที่ตนมีในการปฏิบัติภารกิจอื่นใดย่อมส่งผลสำเร็จในทุกสิ่งที่กระทำแม้มีปัญหา ก็สามารถก้าวผ่านอุปสรรคนานัปการได้อย่างมั่นใจ